เมนูนำทาง
ชุดยิง (หน่วยทหาร) รูปแบบของชาติต่าง ๆในกองทัพบกแคนาดา "ชุดยิง" หมายถึงทหารสองนายที่จับคู่กันเพื่อยิงและเคลื่อนที่ สองชุดยิงรวมกันเป็น "กลุ่มจู่โจม" ซึ่งคล้ายกันกับรูปแบบของกองทัพอื่น ๆ สองกลุ่มโจู่โจมและกลุ่มยานพาหนะ หนึ่งพลขับและหนึ่งพลปืนจะนับเป็นหนึ่งตอนที่ประกอบไปด้วยกำลังสิบนาย[13]
กองทัพปลดปล่อยประชาชนใช้รูปแบบของ "เซลล์" สามคน (three-man "cells" เทียบเท่ากับชุดยิง) เป็นรูปขบวนทหารที่เล็กที่สุด และหน่วยทางทหารดังกล่าวถูกใช้งานตลอดช่วงสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง, สงครามกลางเมืองจีน, สงครามเกาหลี, สงครามจีน-อินเดีย และตลอดช่วงสงครามจีน–เวียดนาม มีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "ระบบ สาม-สาม" (three-three organization จีน: 三三制)[14]
ในแหล่งข้อมูลของจีน กลยุทธ์นี้เรียกว่า "ชุดยิง สาม-สาม"ตามองค์ประกอบของการโจมตี: ทหารสามนายจะประกอบเป็นชุดยิง 1 ชุด และชุดยิง 3 ชุดจะเป็น 1 หมู่ 1 หมวดของจีนประกอบไปด้วยทหารจำนวน 50 นาย ซึ่งจะจัดชุดยิงสามระดับ ใช้การโจมตี "จุดเดียว" จากทั้ง "สองด้าน"[15] โดยแต่ละเซลล์จะประกอบไปด้วยปืนยิงกล (ในสงครามเกาหลีเป็นปืนกลมือหรือปืนกลเบา ในช่วงต้นถึงกลางสงครามเย็นใช้ปืนเล็กยาวจู่โจมหรือปืนกลเบาของหมู่) ในขณะที่ทหารที่เหลือใช้ปืนเล็กยาวแบบลูกเลื่อนหรือปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติเพื่อให้แต่ละ "เซลล์" สามารถยิงและเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ
ตัวอย่างชุดยิงของกองทัพอาสาสมัครประชาชนจีนในช่วงปลายสงครามเกาหลี[14]
การจัดหน่วยในรูปแบบชุดยิงในประเทศไทย ส่วนของกองทัพบกไทย[16] ถือเป็นส่วนหนึ่งของรูปขบวนทำการรบในระดับหมู่ปืนเล็ก มีกำลังทั้งหมด 11 นาย มีผู้บังคับหมู่ ภายในแบ่งเป็น 2 ชุดยิง คือชุดยิง ก. และชุดยิง ข. มีกำลังชุดยิงละ 5 นาย ซึ่งทั้งสองชุดยิงมีการจัดกำลังที่เหมือนกัน[16][17] คือ
ในกองทัพบกไทย ตำแหน่งพลปืนเล็ก พลปืนเล็กกล และพลยิงเครื่องยิงลูกระเบิดนั้นสามารถปฏิบัติการทดแทนกันได้[16] และเนื่องจากในหมู่ปืนเล็กประกอบไปด้วย 2 ชุดยิง ทำให้การจัดชุดภายในสามารถกำหนดให้ชุดใดชุดหนึ่งทำหน้าที่เป็นส่วนดำเนินกลยุทธ์ และให้อีกชุดเป็นส่วนในการยิงสนับสนุนตามความเหมาะสมจากสถานการณ์และภูมิประเทศ[17]
การจัดหน่วยในรูปแบบชุดยิงของกองทัพเรือไทย จะอยู่ในชื่อของ พวกยิง ซึ่งเป็นส่วนย่อยของหมู่ปืนเล็กนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ลักษณะเดียวกับกองทัพบกและอากาศโยธินของกองทัพอากาศ มีการจัดกำลัง 11 นายเท่ากัน แต่ใช้การเรียกชื่อ ยศ และอาวุธที่แตกต่างกันคือ[18]
การจัดหน่วยในรูปแบบชุดยิงของกองทัพอากาศไทย จะอยู่ในส่วนของหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ซึ่งรับผิดชอบกำลังรบภาคพื้นดินของกองทัพอากาศ โดยจัดกำลังในรูปแบบเดียวกันกับกองทัพบกในการจัดหมู่ปืนเล็กในการปฏิบัติการต่าง ๆ เช่น การลาดตระเวน องค์ประกอบภายในเหมือนกันทุกประการ คือมีกำลัง 11 นายใน 1 หมู่ปืนเล็ก ประกอบไปด้วย ผู้บังคับหมู่ 1 นาย ภายในแบ่งเป็น 2 ชุดยิง คือชุดยิง ก. และชุดยิง ข. มีกำลังชุดยิงละ 5 นาย (พลปืนเล็ก 2 นาย, พลปืนเล็กกล 1 นาย และพลยิงเครื่องยิงลูกระเบิด 1 นาย) ซึ่งทั้งสองชุดยิงมีการจัดกำลังที่เหมือนกัน ยกเว้นในส่วนของอาวุธปืนที่ใช้ตามอัตราที่กองทัพอากาศมีใช้งานในประจำการ[19]
ตอนของฝรั่งเศส (groupe de combat – "กลุ่มสู้รบ") แบ่งออกเป็นสองชุด "ชุดยิง" (équipe de feu) จะประกอบไปด้วยปืนเล็กยาวอัตโนมัติหรือปืนกลเบา "ชุดช็อก" équipe de choc) จะประกอบไปด้วยพลปืนเล็กที่ติดเครื่องยิงลูกระเบิดหรือเครื่องยิงจรวดแบบใช้แล้วทิ้ง เป็นหน่วยลาดตระเวนและหน่วยกลยุทธ์ แต่ละชุดจะใช้การการเฝ้าระวังเป็นห้วง โดยมีหน่วยหนึ่งคอยคุ้มกันเมื่ออีกชุดเคลื่อนที่ หัวหน้าชุดมีวิทยุมือถือสำหรับติดต่อกับส่วนต่าง ๆ แบบเดียวกับชุดวิทยุสะพายหลังของผู้บังคับหมู่ ซึ่งสัญลักษณ์ที่พบเห็นบ่อยที่สุดในนายทหารชั้นประทวนสมัยใหม่ (chef d'équipe) คือวิทยุสื่อสารที่ห้อยอยู่รอบคอ
หน่วยทหารราบของกองทัพบกสหราชอาณาจักร, ราชนาวิกโยธิน และกรมอากาศโยธินกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร ได้เริ่มใช้งานแนวคิดชุดยิงมาใช้งานหลังจากนำปืนเล็กยาว เอสเอ 80 และอาวุธเบาสนับสนุนมาใช้งาน ตอนทหารราบมีทหารจำนวนแปดนาย ประกอบไปด้วยสองชุดยิง คือชาลีและเดลตา แต่ละชุดประกอบไปด้วยนายทหารชั้นประทวน (สิบโท หรือสิบตรี) และพลทหารอีกสามนาย
โดยปกติชุดยิงจะถูกใช้เป็นหน่วยรองของตอนสำหรับการยิงและการดำเนินกลยุทธ์แทนที่จะเป็นหน่วยแยกตามรูปแบบของชุดยิง แม้ว่าชุดยิงหรือหน่วยขนาดชุดยิงมักจะใช้สำหรับภารกิจลาดตระเวนร่วม, การปฏิบัติการพิเศษ และการตรวจตราในเมือง (มักจะถูกเรียกว่า "บริคก์" ในสถานการณ์หลังสุด)[24]
ในกองทัพบกสหรัฐ เน้นย้ำแนวคิดเกี่ยวกับแนวคิดของชุดยิงเป็นพิเศษ[25][26][27] ซึ่งตามหลักนิยมของกองทัพบกสหรัฐ ชุดยิงหนึ่งจะประกอบไปด้วยทหาร 4 นาย[28][29][30]
ในกองร้อยปืนเล็กยาวทหารราบของกองพลน้อยชุดรบสไตร์เกอร์ (SBCT) ทหารหนึ่งนายในหมู่ชุดยิงปืนเล็กยาวอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านรถถัง (RMAT) ที่ใช้เอฟจีเอ็ม-148 เจฟลิน หรือเป็นพลแม่นปืนของหมู่ปืนเล็ก (DM) ที่ใช้ปืนเอ็ม 4 คาร์บินและปืนเล็กยาวเอ็ม 14 ในกรณีทั้งสอง ตำแหน่งที่กล่าวานี้จะมาแทนที่พลปืนเล็กของหมู่ปืนเล็กมาตรฐาน[31]
หลักนิยมของเหล่านาวิกโยธินสหรัฐ กำหนดให้ชุดยิงใด ๆ ที่ปฏิบัติการต้องมีพลปืนกลอย่างน้อยหนึ่งทีม (2 นาย) และบรรยายสรุปชุดยิงด้วยหลักการจำคือ "ready-team-fire-assist" ซึ่งคำดังกล่าวคือการจัดชุดยิงเมื่ออยู่ในรูปขบวน
กองกำลังก่อสร้างของกองทัพเรือ หรือที่เรียกว่ากองพันก่อสร้าง ชื่อเล่นว่า "ซีบี" (Seabee ผึ้งทะเล) ใช้ชุดยิง (แบบเดียวกับกองร้อย, หมวด และหมู่) ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับที่ใช้ในนาวิกโยธินในโครงสร้างหน่วย หน่วยซีบีอาจจะสังกัดอยู่กับหน่วยนาวิกโยธินก็ได้
ในกองทัพอื่น ๆ จำนวนมากมองว่าชุดยิงเป็นหน่วยทหารที่เล็กที่สุด กองทัพของบางประเทศประกอบด้วยทหาร 2 นายเป็นหน่วยทหารที่เล็กที่สุด ในขณะที่กรณีอื่น ๆ ชุดยิงประกอบด้วยทหารสองคู่ (ชุดยิงและชุดดำเนินกลยุทธ์) รวมกันเป็นชุดยิง ในกองกำลังคอมมิวนิสต์ของเวียดนาม ซึ่งมีคอมมิวนิสต์จีนเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิด ยังได้นำแนวคิดชุดยิงที่คล้ายคลึงกับของจีน เรียกว่า "ตาม ตัม เฉื่อย" (tam tam chế) และยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบัน[32]
เมนูนำทาง
ชุดยิง (หน่วยทหาร) รูปแบบของชาติต่าง ๆใกล้เคียง
แหล่งที่มา
WikiPedia: ชุดยิง (หน่วยทหาร) https://web.archive.org/web/20150921231042/http://... https://web.archive.org/web/20170810100323/http://... https://web.archive.org/web/20141120012417/http://... https://web.archive.org/web/20191226174036/https:/... https://web.archive.org/web/20201001161622/https:/... http://manual.americasarmy.com/index.php/U.S._Army... http://armypubs.army.mil/doctrine/DR_pubs/dr_a/pdf... http://www.armywriter.com/NCOER/11B.htm http://work.chron.com/job-description-united-state... http://work.chron.com/duties-infantry-team-leaders...